ตะลุย ทรานส์ไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) รถไฟสายในฝันของนักเดินทางทั่วโลก สัมผัสความรู้สึกของวินาทีที่รถไฟวิ่งข้ามเส้นแบ่งทวีป ตื่นตาตื่นใจกับเส้นทางรถไฟสายที่ยาวที่สุดในโลก เปิดประสบการณ์ใหม่กับการเที่ยวทรานส์ไซบีเรีย ผ่านขบวนรถไฟที่เชื่อมโยงดินแดนรัสเซียตะวันตกและรัสเซียตะวันออกเข้าด้วยกัน! เส้นทางสายนี้ไม่ได้เดินทางผ่านแค่วัฒนธรรมและผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์เท่านั้น แต่ยังเดินทางผ่านปฏิมากรรมและธรรมชาติอันยิ่งใหญ่มากมายหลากหลายแห่ง ด้วยความยาวเกือบ 10,000 กิโลเมตรของ รถไฟทรานไซบีเรีย จะนำพานักเดินทางก้าวข้ามเส้นแบ่งเวลาโลก ข้ามจากขอบชายแดนสุดของเอเชียตะวันออกสู่เขตชายแดนตะวันตกแห่งทวีปยุโรป ค้นพบเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้ทุกคนหลงรักเส้นทางรถไฟสายนี้อย่างแน่นอน
หากต้องการเดินทางให้สนุกจะต้องทำความรู้จักกับ ทรานส์ไซบีเรีย เสียก่อน เพื่อเป็นข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับประกอบการท่องเที่ยวเดินทางให้สนุกสนานเพลิดเพลิน พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะนำพาชีวิตให้มีความหมายกับเส้นทางรถไฟแห่งประวัติศาสตร์ชีวิตนี้ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด ดังต่อไปนี้
แท้จริงแล้วรถไฟสายทรานไซบีเรียไม่ใช่ขบวนรถสำหรับการท่องเที่ยว แต่มันคือระบบรถไฟท้องถิ่นซึ่งคนที่อยู่ร่วมขบวนส่วนใหญ่จะเป็นคนท้องถิ่นที่เดินทางไปมาระหว่างเมือง ในระหว่างการเดินทางจะสามารถซึมซับวิถีของผู้คนมากมายหลากหลายเผ่าพันธุ์ หลากหลายวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ใครที่เป็นสาย Local คุยกับคนท้องถิ่น เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ บอกเลยว่าการเดินทางรถไฟสายทรานไซบีเรียคือทริปต่อไปสำหรับคุณ
รถไฟทรานไซบีเรีย ถือว่าเป็นรถไฟที่มีความยาวมากที่สุดในโลกด้วยความยาวถึง 9,289 กิโลเมตร จากเมืองมอสโกจนถึงเมืองวลาดิวอสตอค ด้วยความยาวเกือบ 10,000 กิโล จะนำพานักเดินทางก้าวข้ามเส้นแบ่งเวลาโลก ข้ามจากชายแดนของเอเชียตะวันออกสู่ชายแดนตะวันตกแห่งทวีปยุโรป ซึมซับกับเรื่องราวของประวัติศาสตร์การก่อสร้างรถไฟในทุกหลักกิโลเมตร เมื่อเดินทางผ่านเมืองเยคาร์เทิร์นเบิร์กอันเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์โรมานอฟแห่งจักรวรรดิรัสเซียก็จะทำให้เติมเต็มเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ได้อย่างชัดเจน
ทางรถไฟทรานไซบีเรีย จะมีสายย่อยเชื่อมต่อไปยังมองโกเลีย จีน และเกาหลีเหนือ ซึ่งสามารถเดินทางข้ามทวีปด้วยการเดินทางด้วยรถไฟ สัมผัสอรรถรสการเดินทางข้ามประเทศจากจีนสู่มองโกเลียแล้วมาจบที่ทวีปรัสเซีย สัมผัสประสบการณ์แห่งความแตกต่างของแต่ละประเทศแต่ละทวีปจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยทางรถไฟที่ให้ความรู้สึกที่ไม่มีที่ไหนจะเปรียบเทียบได้อย่างแน่นอน
สัมผัสการเดินทางบนขบวนรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ดื่มด่ำบรรยากาศสภาพภูมิประเทศที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปจากอภิมหาความเจริญของกรุงปักกิ่ง สู่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลและทะเลทรายสุดสายตาของมองโกเลีย จากนั้นจะได้เดินทางเข้าสู่ป่าสนไทกาและทะเลสาบไบคาลในไซบีเรียทะเลสาบที่ลึกที่สุดน้ำใสที่สุดในโลก ก่อนจะปิดฉากเส้นทางรถไฟทรานไซบีเรีย ด้วยจัตุรัสแดงในกรุงมอสโกประเทศรัสเซีย
การเดินทางเที่ยวทรานส์ไซบีเรีย ต้องมีหลักฐาน ได้แก่ หนังสือเดินทางซึ่งต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน แบบฟอร์มยื่นขอวีซ่า รูปถ่าย ค่าใช้จ่ายสำหรับการขอวีซ่า ประมาณ 1,500 บาท ค่าตั๋วรถไฟจะมีราคาประมาณ 15,000 บาทถึง 20,000 บาท ค่าที่พักแบบ Hostel คืนละประมาณ 600 - 1,000 บาท ค่าอาหารโดยไม่ได้ประหยัดมากนักวันละประมาณ 600 บาท ค่าเดินทางอื่น ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ประมาณครั้งละ 200 บาท ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ประมาณครั้งละ 500 บาท ซึ่งหากเตรียมเงินประมาณ 50,000-60,000 บาทสำหรับทริป 14 วันก็จะสามารถเที่ยวได้โดยไม่ได้ลำบากมากนัก
ไซบีเรียลจะอยู่ในเขตซีกโลกเหนือ ฉะนั้นการเดินทางจะมีเพียง 2 ฤดูก็คือฤดูร้อนและฤดูหนาวเท่านั้น ช่วงเวลาที่เป็นไฮซีซั่น ได้แก่ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมของทุกปี เพราะอากาศจะกำลังเย็นสบาย แต่ราคาตั๋วอาจจะแพงและเต็มโรงแรมก็อาจจะไม่เพียงพอ หากเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์จะเป็นฤดูหนาวมีหิมะตลอดเส้นทาง ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่จะไปไหนมาไหนสะดวก ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก ช่วงเวลาที่เหมาะสมและลงตัวสำหรับคนไทยก็คือช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน เพราะจะมีคนไม่เยอะมากเท่าช่วงไฮซีซั่น และอากาศกำลังพอดีไม่หนาวทารุณจึงเหมาะสมสำหรับคนไทยมากที่สุด
ควรวางแผนหยุดงานกี่วัน ในการเดินทางไปเที่ยวทรานส์ไซบีเรีย ควรจะมีเวลาสัก 1 อาทิตย์เป็นอย่างน้อย หรือหากมีเวลาสัก 15 วันจะถือว่าลงตัวมากที่สุด เพราะว่าการใช้เวลาบนรถไฟทรานส์ไซบีเรีย จากปักกิ่งไปถึงกรุงมอสโกโดยที่ไม่ต้องแวะพักระหว่างทางเลยก็ใช้เวลาถึง 1 อาทิตย์เลยทีเดียว ระยะทางเกือบ 10,000 กิโลเมตรจะมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นร้อย ๆ เมือง และมีเมืองหลักที่ทุกคนควรจะต้องแวะ ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เมืองอูลาน บาทอร์ เมืองเอียร์คุชต์ และกรุงมอสโก โดยแต่ละเมืองควรจะมีเวลาอย่างต่ำ 2-3 วัน เพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวและซึมซับบรรยากาศได้อย่างครบถ้วน แต่หากไม่มีเวลามากนักแต่อยากจะได้ประสบการณ์สักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็สามารถนั่งรถไฟทรานไซบีเรียจากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดหมายปลายทาง แล้วบินกลับกรุงเทพฯ ก็ใช้เวลาประมาณ 7 วันนั่นเอง
ในการวางแผนเที่ยว ทรานส์ไซบีเรีย สายรถไฟที่โด่งดังระดับโลก เป็นทริปในฝันเป็นประสบการณ์ที่นักเดินทางไม่ควรที่จะพลาดโดยเด็ดขาด ในการเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ดังนั้นควรจะต้องเตรียมตัวให้ดีเสียก่อนไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การเตรียมเงินและแบ่งเก็บเงินในระหว่างการเดินทางให้ดี อย่าลืมตุนเสบียงต่าง ๆ ไปกินบนรถไฟทรานไซบีเรีย สัมผัสกับอรรถรสของการใช้ชีวิตบนรถไฟ กินอยู่หลับนอนพร้อมชื่นชมกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของสองฝั่งข้างทางตลอดการเดินทางเที่ยวทรานส์ไซบีเรีย แล้วจะได้ค้นพบความทรงจำและประสบการณ์อันวิเศษจนไม่อาจจะลืมลงอย่างแน่นอน
ดีใจด้วย คุณคือคนแรก!
คอมเมนต์